วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

การดูแลรักษาและการเปลี่ยนแปรงสีฟัน

คุณควรดูแลแปรงสีฟันอย่างไร
ดูแลรักษาแปรงสีฟัน (และตัวคุณเอง) ให้มีสุขภาพดี โดยปล่อยให้แปรงสีฟันแห้งสนิทหลังการใช้ เนื่องจาก แปรงสีฟัน สามารถเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เชื้อรา และแบคทีเรียในระดับที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่อผู้ใช้ได้เมื่อมีการสะสมในปริมาณ มาก ดังนั้นหลังจากการใช้แปรงสีฟันให้คุณเคาะแปรงสีฟันแรงๆ กับก๊อกน้ำและเก็บแปรงสีฟันโดยตั้งหัวแปรงขึ้น เพื่อให้หัว แปรงสัมผัสอากาศจนแห้ง
ระหว่างการเก็บแปรงสีฟันพยายามไม่ให้หัวแปรงสัมผัสกับแปรงสีฟันอันอื่นๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสที่เป็น สาเหตุของโรคหวัดและไข้ระหว่างหัวแปรง นอกจากนี้การซื้อแท่นวางยาสีฟันมาตรฐานที่มีช่องไว้เสียบแปรงสีฟันโดยให้ หัวแปรงตั้งขึ้นถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับสุขภาพของครอบครัว
คุณควรเปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยแค่ไหน?
ทันตแพทย์ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าคุณควรเปลี่ยนแปลงสีฟันทุกๆ 3 เดือน ผลการศึกษาออกมาว่าหลังจากที่ ใช้แปรงสีฟัน ด้ามหนึ่งเป็นระยะเวลาสามเดือน ความสามารถในการขจัดคราบพลัคจากฟันและเหงือกของแปรงสีฟันด้ามดังกล่าวจะมี ประสิทธิภาพ ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับแปรงสีฟันด้ามใหม่ เนื่องจากขนแปรงเก่าจะทรุดโทรมและสูญเสียประสิทธิภาพใน การซอกซอนส่วนที่เข้าถึงยากรอบๆ ฟัน
จำไว้ว่า คุณจะต้องเปลี่ยนแปลงสีฟันหลังจากที่คุณเป็นหวัด เป็นไข้ ติดเชื้อในปาก หรือมีอาการเจ็บคอเสมอ เนื่องจากจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของการป่วยอาจซ่อนตัวอยู่ในขนแปรงสีฟันและทำให้คุณกลับมาติดเชื้ออีกครั้งหนึ่งได้ และถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ป่วย เชื้อราและแบคทีเรียสามารถเติบโตในแปรงสีฟันของคุณได้เช่นกัน และนั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้คุณจะต้องเปลี่ยนแปรงสีฟันอย่างสม่ำเสมอ.
คุณจะปกป้องแปรงสีฟันอย่างไรเมื่อคุณต้องเดินทาง
กล่องแปรงสีฟันพลาสติกสามารถป้องกันไม่ให้ขนแปรงสีฟันของคุณบานออกหรือถูกกดทับจนแบนในขณะที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางได้ หลังการแปรงฟัน ควรปล่อยให้แปรงสีฟันให้สัมผัสกับอากาศจนแห้ง เพื่อลดจำนวนการสะสมของจุลินทรีย์.

ขัดฟันอย่างไรให้ถูกวิธี – เทคนิคการใช้ไหมขัดฟัน

วิธีใช้ไหมขัดฟันที่ถูกต้อง
การขัดฟันด้วยไหมขัดฟันอย่างถูกต้องเหมาะสมจะช่วยขจัดคราบพลัค และเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน ซึ่งแปรงสีฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ เช่น บริเวณใต้ร่องเหงือกและซอกฟัน การขัดฟันด้วยไหมขัดฟันจะช่วยป้องกัน การสะสมของคราบพลัค เนื่องจากคราบพลัคที่สะสมเป็นสาเหตุให้เกิดฟันผุ และ โรคเหงือก
เพื่อการขัดฟันอย่างมีประโยชน์สูงสุด ให้คุณใช้วิธีขัดฟันที่ถูกต้องดังต่อไปนี้:
1.            ดึงไหมขัดฟันออกมาประมาณ 18 นิ้ว ม้วนไหมขัดฟันส่วนใหญ่รอบนิ้วกลางของมือทั้งสองข้าง ให้ระยะห่างของไหมขัดฟันที่ใช้สำหรับขัดฟันยาวประมาณ 1-2 นิ้ว
2.            ใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือตรึงไหมขัดฟันไว้ จากนั้นเลื่อนไหมขัดฟันขึ้น-ลงในซอกฟัน
3.            ดึงให้ไหมขัดฟันโค้งรอบฐานฟันแต่ละซี่อย่างนุ่มนวล โดยให้ไหมขัดฟันแทรกเข้าไปใต้ร่องเหงือก ไม่ควรกระชากหรือดึงไหมขัดฟันอย่างรุนแรง เนื่องจากอาจทำให้เนื้อเยื่อเหงือกที่บอบบางฟกช้ำ หรือมีรอยบาดได้
4.            ใช้ไหมขัดฟันส่วนที่สะอาดในการขัดฟันแต่ละซี่ไปเรื่อยๆ
5.            ในการนำไหมขัดฟันออกจากตัวฟัน ให้เลื่อนไหมขัดฟันไปข้างหน้า-หลังระหว่างที่ดึงไหมขัดฟันขึ้น เพื่อนำไหมขัดฟันออกจากซอกฟัน

ประโยชน์ของการแปรงฟัน

การแปรงฟันอย่างเป็นระบบจะทำให้แปรงฟัน ได้ทั่วถึง ทุกซี่ ทุกด้าน ช่วยป้องกันการลืมแปรงฟันบางบริเวณได้
        
เราจะกำจัดคราบจุลินทรีย์ได้อย่างไร ?
 คราบจุลินทรีย์เกิดขึ้นในปากตลอดเวลา  และพอกตัวหนาขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป คราบจุลินทรีย์ไม่สามารถกำจัดได้ ด้วยการบ้วนปาก 
วิธีการกำจัดคราบจุลินทรีย์ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในชีวิตประจำวัน คือ การแปรงฟัน  โดย บางครั้งอาจต้องใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ช่วยด้วย  บางครั้งอาจต้องใช้ น้ำยาบ้วนปากที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งทันตแพทย์ จะให้ คำแนะนำเป็นกรณีไป

การแปรงฟันอย่างมีประสิทธิภาพ หมายถึงอะไร ?
 การแปรงฟันอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการ รักษาอนามัยช่องปาก และเป็นวิธีการป้องกันโรคในช่องปาก ที่ได้ผลดี ที่สุด ง่ายที่สุด
การแปรงฟัน อย่างมีประสิทธิภาพหมายถึง 
1                แปรง สะอาด (ลดคราบจุลินทรีย์ให้เหลือน้อยที่สุด)
2                  แปรง ทั่วถึง (แปรงฟันทุกซี่ทุกด้าน เน้นขอบเหงือกและคอฟัน)
      แปรงสม่ำเสมอ (แปรงฟันทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง จนเป็นสุขนิสัย)
    4  ไม่ทำอันตรายต่อเหงือกและฟัน (แปรงแล้วไม่ทำให้ฟันสึกหรือ เหงือกเป็นแผล)

ข้อควรระวังในการแปรงฟัน

การแปรงฟันที่ถูกวิธีควรทำอย่างไร


                        การแปรงฟันที่ถูกวิธีนั้น ต้องแปรงฟันใหัทั่วถึง ทุกด้านของทุกซี่ฟันในปาก ซึ่งจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 นาที จุดที่ควรเน้นเวลาแปรงฟันคือ บริเวณคอฟัน ซึ่งเป็นส่วนต่อระหว่างเหงือกกับฟัน เพราะคอฟันเป็นบริเวณที่สะสมคราบจุลินทรีย์ไว้มากที่สุด จึงควรใช้แปรง - ขนอ่อน - วางบริเวณคอฟัน แล้วขยับแปรงไปมาเบาๆ เพื่อให้เศษอาหาร และคราบจุลินทรีย์หลุดออกจากตัวฟัน ส่วนบริเวณซอกฟัน หรือด้านข้างของซี่ฟัน ที่อยู่ชิดติดกันนั้น ขนแปรงไม่สามารถเข้าไปทำได้ จึงควรใช้ไหมขัดฟัน (หรือ เดนทัลฟลอส) ทำความสะอาดทุกครั้ง หลังการแปรงฟัน
เวลาที่เหมาะสมในการแปรงฟัน คือ หลังอาหารทุกมื้อ และก่อนนอน โดยเฉพาะก่อนนอน ควรแปรงฟันให้สะอาดที่สุด

ความสำคัญของการแปรงฟัน

การแปรงฟัน     
    ปัจจุบันทานแปรงฟันของท่านแบบไหน ?
    แปรงขึ้น ๆ ลง ๆ หรือแปรงขวางไปตามแนวราบ ถ้าท่านแปรงด้วยวิธีดังกล่าว ควรเปลี่ยนวิธีเสีย เพราะการแปรงขึ้น ๆ ลง ๆ ทำอันตรายต่อเหงือกของท่าน ทำให้เหงือกร่นหรือถ้าแปรงขวางจะทำให้ฟันสึก โดยเฉพาะเมือท่านใช้แปรงแข็งและใช้ยาสีฟันที่หยาบ เป็นผง ก่อนอื่นท่านควรรู้จักลักษณะที่ถูกต้องของแปรงสีฟัน ยาสีฟัน สีย้อมคราบจุลินทรีย์


แปรงสีฟัน

    ส่วนใหญ่คนมักจะเข้าใจผิดคิดว่าขนแปรงสีฟันยิ่งแข็งยิ่งดี เพราะสามารถกำจัดสิ่งสกปรกออกได้ดี ซึ่งที่จริงกลับทำอันตรายต่อเหงือกและฟันเป็นอย่างยิ่ง
    แปรงสีฟันที่ดีควรจะมีขนแปรงที่อ่อนนุ่ม ทำด้วยไนล่อน เพราะมีลักษณะและขนาดเหมือนกันหมด ส่วนปลายของเส้นไนล่อนมนและเรียบเพื่อไม่ให้บาดเหงือก นอกจากนี้ยังคงสภาพเดิม มีสปริงดีเมื่อถูกน้ำ และรักษาความสะอาดได้ง่าย หัวแปรงควรมนกรม มีขนาดเล็กพอเหมาะ และสามารถทำความสะอาดได้ทุกบริเวณในปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้ามแปรงควรตรงและยาวพอเพื่อการจับที่มั่นคง อายุการใช้งานของแปรงควรใช้ประมาณ ๓ เดือน หรือเมื่อรูปร่างของขนแปรงบิดเบี้ยว หรือบานจากปกติ หลังการใช้แปรงทุกครั้งต้องล้างให้สะอาดและผึ่งไว้ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก และสะอาด




    มีอยู่หลายชนิด และมีวิธีการใช้ต่างกัน ซึ่งผู้ใช้ต้องใช้ให้ถูกต้องจึงจะมีประสิทธิภาพ ทันตแพทย์มักแนะนำให้ใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า สำหรับผู้ที่ไม่สามรถใช้มือได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นผู้ป่วยเป็นโรคปวดตามข้อ คนพิการ ผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่ไม่สามรถแปรงด้วยตนเองได้ เด็กเล็ก ๆ และที่ใส่เครื่องมือจัดฟันในการแปรงฟันเพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์นั้น

การใส่ยาสีฟันควรใส่ลงไประหว่างขนแปรง เพื่อให้ยาสีฟันได้สัมผัสกับตัวฟัน ไม่ใส่บนขน แปรงเพราะยาสีฟันจะหลุดออกไปเสียก่อน


    การแปรงฟันเป็นขั้นตอนสำคัญของการดูแลรักษาสุขภาพช่องปาก เพราะเป็นวิธีกำจัดคราบจุลินทรีย์ ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของโรคปริทันต์ การแปรงฟันมีหลายวิธี แต่ยังไม่มีวิธีใดเหมาะสมที่สุดสำหรับทุกคน จากการศึกษาพบว่าในการสอนแปรงฟันในชุมชนนั้น วิธีที่มีประสิทธิภาพสูงใมนการทำความสะอาดเหงือกและตัวฟัน โดยเฉพาะในร่องเหงือก และใช้เวลาน้อยนั้น คือวิธีมอดิฟายด์แบส (Modified Bass Method) ซึ่งต้องใช้แปรงขนอ่อน (Soft) และมีขั้นตอนดังนี้
    วางแปรงที่บริเวณคอฟันและขอบเหงือก ขนแปรงทำมุม ๔๕ องศา กับแกนยาวของฟัน ชี้เฉียงไปทางปลายรากฟัน
    กดปลายของขนแปรงให้เข้าไปในร่องเหงือกและซอกฟันออกแรงสั่นเบาๆ ตามแนวราบด้วยระยะทางสั้น ๆ กลับไปกลับมาโดยที่ขนแปรงยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม ทั้งนี้เพื่อเป็นการเน้นการแปรงที่บริเวณคอฟันที่อยู่ชิดขอบเหงือก ซึ่งเป็นจุดสำคัญ และเป็นการนวดเหงือกด้วย
    จากนั้นจึงค่อยบิดข้อมือให้ขนแปรงม้วนปัดมาทางด้านบดเคี้ยวของฟัน ทำดังนี้ซ้ำ ๆ กัน ตำแหน่งละ ๖ ครั้ง
    เนื่องจากบริเวณฟันหน้าและฟันเขี้ยวเป็นตำแหน่งความโค้งของกระดูกขากรรไกร ดังนั้นเมื่อแปรงฟันหน้าและฟันเขี้ยวด้านใน จึงต้องวางแปรงดังรูปที่ ๑๖ แต่หลักการแปรงเหมือนที่กล่าวมาแล้ว
    สำหรับการแปรงฟันด้านบดเคี้ยว ให้วางแปรงตั้งฉากกับด้านบดเคี้ยวของฟันแล้วถูกเข้าถูออกเป็นช่วงสั้น ๆ
    นอกจากนี้ความทั่วถึงในการแปรงฟันมีความสำคัญอย่างยิ่ง แม้ว่าจะแปรงถูกวิธีแต่ละเลยบางตำแหน่งไป จะทำให้ประสิทธิภาพในการแปรงฟันไม่สมบูรณ์ ฉะนั้นจึงควรเริ่มแปรงที่ด้านนอกของฟันบนและฟันล่างให้หมด แล้วจึงเริ่มต้นแปรงด้านในของฟันบนและล่าง จากนั้นจึงแปรงด้านบดเคี้ยวและควรแปรงลิ้นด้วยเพื่อกำจัดคราบต่าง ๆ ที่สะสมบนลิ้น เนื่องจากบริเวณลิ้นมีตุ่มรับรสเล็ก ๆ อยู่มากทำให้มีซอกเล็ก ๆ บนลิ้นซึ่งจะเป็นที่เก็บกักเชื้อโรคได้
    ท่านควรแปรงฟันวันละ ๒ ครั้ง คือเช้า และก่อนนอก การแปรงฟันก่อนนอนเป็นสิ่งควรทำอย่างยิ่ง เพราะระหว่างการนอนจะไม่มีการเคลื่อนไหวภายในช่องปาก ทำให้คราบจุลินทรีย์มาสะสมบนตัวฟันมาก การเคลื่อนไหวภายในช่องปาก เช่นการเคี้ยวอาหาร การพู จัดเป็นขบวนการทำความสะอาดเองโดยธรรมชาติ ถ้าเป็นไปได้ควรแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ให้บ้วนน้ำแรง ๆ ๒-๓ ครั้งหลังอาหาร


วิธีการแปรงฟันวิธีการแปรงฟันอย่างถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ยาสีฟันเป็นเพียงส่วนช่วยในการทำความสะอาดและขัดพื้นผิวฟัน และเป็นสื่อกลางในการใส่สารต่าง ๆ เช่นฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ สารลดการเสียวฟัน สารลดการเกิดคราบจุลินทรีย์ และหินปูนเป็นต้น แต่การที่ใส่สารเคมีหรือสมุนไพรบางชนิดเพื่อป้องกันการเกิดคราบจุลินทรีย์ หินปูน และอาการเหงือกอักเสบนั้น ยังไม่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไป นอกจากนี้ยังมีการผลิตยาสีฟันประเภทขัดฟันขาว (Whitening Toothpaste) และขัดคราบบุหรี่ ยาสีฟันประเภทนี้ถ้ามีผงขัดหยาบกว่าปกติหรือผสมผงขัดมากกว่ปกติมีคุณสมบัติ ขัดผิวเคลือบฟันสูงกว่ายาสีฟันธรรมดา ซึ่งถ้าใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานอาจมีผลทำให้ผิวเคลือบฟันบางลงและเสียวฟันได้ นอกจากนี้ยาสีฟันที่ช่วยทำให้ฟันขาวขึ้นอาจผสมสารเคมีประเภท Peroxide เพื่อช่วยฟอกสีฟันให้ขาวขึ้น ดังนั้นในการใช้ยาสีฟันนี้จึงควรได้รับการแนะนำและดูแลจากทันตแพทย์อย่างดี เพราะสาร Peroxide มีฤทธิ์กัดกร่อน อาจทำอันตรายต่อเหงือก และทำให้เสียวฟันได้ การที่มีฟันเหลือง ฟันสีน้ำตาล ฟันตกกระ ฟันเปลี่ยนสี ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนเพื่อตรวจหาสาเหตุและหาวิธีแก้ไขได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตามยาสีฟันที่ใช้ควรเป็นครีมที่ละเอียด ไม่ควรหยาบหรือเป็นผงเพราะจะทำให้ฟันสึก